1.25.2560

Review : รีวิวรองพื้นสุดฮิต ดีจริงรึเปล่า? DIOR DIORSKIN STAR FOUNDATION




 DIORSKIN STAR

STUDIO MAKEUP - SPECTACULAR BRIGHTENING 

WEIGHTLESS PERFECTION - LONG WEAR - BROAD SPECTRUM SPF 30


ปริมาณ 30 ml, ราคา 2,400 บาท


ก่อนอื่นเราขอพูดแบบจริงจังเรื่องราคาเป็นสิ่งแรก เพราะส่วนตัวไม่สนับสนุนการถือโอกาสขึ้นราคาทีละมากๆของทุกแบรนด์ และการตั้งราคาแพงแบบเกินไปมากๆ ราคารองพื้น Dior ถือว่าโหดมาก มาSephora อเมริกา ราคา $50.00 (ประมาณ 1,700-1,800 บาท) ญี่ปุ่นประเทศที่ค่าครองชีพแพงกว่าบ้านเราแบบโหดมาก ราคา 6,480 เยน (ประมาณ 1,900-2,100 บาท ) ราคาไม่หนีอเมริกาและขายถูกกว่าบ้านเราอีก ราคาเคาน์เตอร์ไทย 2,400 บาท เมื่อปีก่อนๆราคา 2,000 บาท มีการปรับราคาขึ้นเยอะมาก รองพื้นหลายแบรนด์ราคาที่ประเทศเค้าพอๆกับ Dior หรือแพงกว่ากลับตั้งราคาได้ถูกกว่า Dior ซึ่งบางแบรนด์ราคาตั้งราคาดีมาก คือไม่ใช่ถูกนะคะ แต่ถือว่าเป็นเกณฑ์ที่รับได้ ทำให้อยากพุ่งตัวไปซื้อเคาน์เตอร์เลยจริงๆ ซึ่งเพื่อนๆอาจสามารถหารองพื้นที่ราคาไม่แพงเท่า Dior แล้วให้ลุคประมาณนี้ได้ แถมอาจชอบกว่ารองพื้น Dior ก็ได้ค่ะ




สภาพผิวเรา : ผิวผสม ทีโซนมัน ข้างแก้มแห้ง




ขวดแก้วหรูหรา น้ำหนักปานกลาง แต่ด้วยความที่เป็นขวดแก้วอาจไม่เหมาะจะพกพา ข้างในเป็นฝาปั๊ม




เนื้อสัมผัส

ปั๊มออกมาเนื้อรองพื้นเป็นแบบครีมที่มีความจับตัวกันเป็นก้อนแน่นๆ ที่มีความข้นหนืดของเนื้อรองพื้น ไม่ได้เป็นเนื้อเหลวๆ ต้องใช้ความว่องไวในการทาเพราะรองพื้นเซ็ทตัวเร็วมาก ไม่เหมาะกับการใช้แปรง หรือใช้มือปาดๆ เพราะจะดูหนาไป เนื้อมีความข้นทาแล้วลากไม่ไป ผลออกมาจะไม่สม่ำเสมอ ถ้าใช้มือต้อง กดๆ ตบๆ สรุปคือเหมาะกับการใช้ฟองน้ำที่สุดค่ะ  เนื้อรองพื้นลักษณะนี้ ต้องเตรียมผิวดีๆค่ะ ถ้าใครบำรุงผิวไม่ดี หรือผิวขาดน้ำ ตอนลงรองพื้น อาจไม่สมูท แต่งหน้าไม่ติดค่ะ  




ผลลัพธ์บนผิว
เมื่อแรกทา

พอเจอเนื้อสัมผัสตอนแรกก็แอบเฟล กลัวจะเป็นรองพื้นที่หนาๆหนักๆ เพราะปกติเราจะชอบแบบลิขวิด ที่เกลี่ยง่าย ซึ่งตอนแรก ถ้าใช้มือกับแปรงจะดูหนาๆ เหมือนรองพื้นกองกันบนผิว ใช้กับฟองน้ำดีที่สุดจริงๆ พอใช้ฟองน้ำลงรองพื้นจะถูกเบลนด์จนกลืนไปกับผิว  เนื้อรองพื้นเซ็ทตัวแบบ Demi-Matt  รองพื้นให้การปกปิดระดับปานกลาง พรางรูขุมขนได้ดี หน้าดูเนียนละเอียด รองพื้นกระจายแสงดี มีเอฟเฟกต์ความโกลวแบบพอดีๆ ทำให้ผิวดูมีมิติ เมื่อรองพื้นเซ็ทตัวจะรู้สึกเนียนกว่าเดิม ยิ่งใช้แป้งฝุ่น มาเซ็ทจะยิ่งดูเนียน ทาแล้วมีความกริบเนี๊ยบแบบดูรู้ว่าทารองพื้น แต่ไม่หนาจนถึงขั้นเคกกี้ ไม่มีการตกร่องรูขุมขน ไม่มีการไปเน้นหรือตกร่องริ้วรอยต่างๆ ตรงนี้ถือว่าดีมาก

ระหว่างวัน

รู้สึกชอบผิวตอนนี้มากกว่าตอนทาใหม่ๆเพราะเมื่อมีน้ำมันจากผิวมาผสมรวมกับรองพื้น รองพื้นเหมือนหลอมละลายกลืนไปกับผิวมากขึ้น เนื้อรองพื้นจาก Demi-Matte กลายเป็นแบบเนื้อ Satin ให้ลุคธรรม-ชาติมากขึ้น ผิวดูสวยกว่าตอนทาใหม่ๆอีกค่ะ มีการเพิ่มขึ้นของเอฟเฟกต์ผิวโกลว แต่ไม่ได้ทำให้ผิวดูมันหน้าเปียกแบบสาวเกาหลี รู้สึกชอบผิวตัวเองระหว่างวัน มากกว่าตอนทาแรกๆ รองพื้นตัวนี้ไม่คุมมัน ทีโซนเรามันขึ้นปกติ ต้องซับมันพอสมควร แต่รองพื้นไม่ได้ดูเละเทะบนหน้า ส่วนข้างแก้มที่ผิวแห้งมีความเฟรชตอนเหมือนทาใหม่ๆและระหว่างวันไม่มีการตกร่องรูขุมขนหรือ Fine line ถือเป็นรองพื้นที่ทำให้ผิวสวยตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าไปจนล้างออก แต่ก็มีการไหลหลุดของรองพื้น



เรื่องความติดทน, การดรอป, และการเกิดคราบล่ะ?

ความติดทนที่ว่านี้ วัดจากผิวเราซึ่งเป็นผิวผสม และไม่ได้ใช้ไพรเมอร์นะคะ ถ้าทำงานห้องแอร์ คิดว่าติดทนประมาณ 8-9 ชั่วโมง แต่ถ้ามีการออกไปข้างนอก แดดร้อน อากาศร้อนๆ เหงื่อออก ติดทนประมาณ 6 -7 ชั่วโมง แล้วจะมีรองพื้นหลุดตรงบริเวณทีโซน ที่เป็นจุดที่ผิวมันของเรา โดยเฉพาะจมูกที่หลุดออกไปเกือบหมด ถ้ามีไพรเมอร์ก็น่าจะทำให้รองพื้นติดทนนานกว่านี้ ข้อดีของรองพื้นคือไม่เป็นคราบและตกร่องเลยระหว่างวัน ขนาดใส่แว่นกันแดด แค่เอานิ้วกดๆตบๆตรงบริเวณข้างจมูกที่ใส่แว่น ก็กลับมาเนียนกลืนกับผิวเหมือนเดิม เคยโดนน้ำ จากการกระหน่ำฉีดสเปรย์น้ำแร่ ก็ไม่ไหลเป็นคราบน้ำ แต่ก็มีหลุดๆไปเวลาซับหน้า มีการดรอป Oxidized ระหว่างวันบ้าง ถ้าช่วงไหนพักผ่อนน้อย ผิวเครียดแต่น้อยมากๆ ที่เราเจอวันที่ทาแล้วดรอป



คะแนน 
  • เนื้อเกลี่ยง่าย สบายผิว : 3/5
  • ปกปิด : 4.5/5
  • ความธรรมชาติ : 3/5
  • ฟินิชลุคบนผิว : 4.5/5
  • ติดทน : 4/5
  • ควบคุมความมัน : 2/5
  • ความพอใจ ความชอบส่วนตัว : 3/5


"ทั้งนี้ทั้งนั้นการรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราคนเดียว 
ซึ่งผลลัพธ์หรือความชอบในการใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม  
ย่อมแตกต่างกันไปตามสภาพผิว และปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ ถ้ามีโอกาส ควรลองก่อนซื้อค่ะ"


1.24.2560

รีวิว L'OREAL Brow Artist Chisel Straight

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวมาสคาร่าคิ้วตัวโปรด ปกติเราจะใช้ของญี่ปุ่น แต่ปัญหาคือมาสคาร่าคิ้วญี่ปุ่น มันจะชอบเป็นปื้นๆ ติดผิวที่คิ้ว เนื้อส่วนมากจะแน่นเหนอะๆ ทำให้ดูไม่ทำธรรมชาติ นึกออกมั้ยคะ ต้องซับเนื้อมาสคาร่ากับทิชชู่ออกก่อนใช้ ต้องปัดแบบปราณีต หลังๆเลยตัดปัญหา เลิกใช้ไปเลย

ซึ่งความจริงเราไปตามหามาสคาร่าคิ้วอีกรุ่นของลอรีอัล ที่ชื่อรุ่น Brow Stylist Plumper ซึ่งป๊อบปูล่ามาก ที่ต่างประเทศ ไปอ่านรีวิว ดู Vlogger ในยูทูป จนอยากลอง แต่ดันไม่เข้าบ้านเรา เลยได้รุ่นนี้มาแทน เห็นลดราคาพอดีด้วยตอนซื้อ เลยซื้อมาแบบไม่ได้คาดหวังมาก


ตอนแรกๆ ยังเก้ๆกังๆ กับขนแปรงที่แปลกมาก จากทั่วๆไป แต่พอใช้เป็นแล้ว จะบอกว่าชอบมากๆๆ ขาดไม่ได้ไปแล้ว ใช้ง่าย สะดวก ปัดแล้วไม่เลอะเทอะ ปัดเร็วๆยังสวย ปริมาณเนื้อมาสคาร่าออกมากำลังดี  เราว่าใครขนคิ้วหนาๆ ไม่ต้องเขียนคิ้ว เอาตัวนี้ปัดๆ+วาดคิ้วเบาๆได้เลย มาสคาร่าเซ็ทตัวเป็นแบบฝุ่น 




ด้วยความที่แปรงเป็นแบบนี้เลยใช้สะดวกสุดๆ เขียนคิ้วแล้วเอาตัวนี้ปัดๆ เอาด้านข้างทิปตรงปลายแปรงเขียนหางคิ้ว แล้วเอาแปรงปัดขึ้น อีกทีตรงหางคิ้วที่วาด (คือเท่าที่สังเกตฝรั่ง เค้าเอาปลายแปรงมาสคาร่า แตะวาดหางคิ้วด้วย)ผลลัพธ์ สุดยอดดดด! ธรรมชาติ กำลังดี ไม่หลอก ไม่เละเทะ

ข้อเสียคือมีให้เลือกน้อยมาก 2 สี เท่านั้น ใครที่ย้อมผมอาจจะไม่มีสีที่เหมาะ แต่เราไม่ได้ย้อม เลยใช้สีเข้มสุดได้พอดี แต่สีเข้มสุดยังออก Cool tone ไปนิด 


คะแนน 3.75/5


"ทั้งนี้ทั้งนั้นการรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราคนเดียว 
ซึ่งผลลัพธ์หรือความชอบในการใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม  
ย่อมแตกต่างกันไปตามสภาพผิว และปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ ถ้ามีโอกาส ควรลองก่อนซื้อค่ะ"


ป.ล. ผลิตภัณฑ์มีอายุหลังเปิดใช้ 6 เดือน ตามฉลาก
แล้วก็ Made in Korea ค่ะ :)

Review : แป้งผสมรองพื้น Shiseido Maquillage Dramatic Powdery UV (foundation) SPF25 PA++ 9.2g.


สวัสดีค่ะ ปกติเราจะชอบใช้รองพื้น + แป้งฝุ่น เพราะมันดูแนบสนิทกับผิวมากกว่าแป้งผสมรองพื้น แต่แป้งผสมรองพื้นก็ต้องมีติดตัวไว้สำหรับวันรีบๆ หรือเดินทางไปไหน  เลยอยากหยิบแป้งผสมรองพื้น Shiseido Maquillage Dramatic Powdery UV (foundation) SPF25 PA++ หนึ่งในแป้งที่มีในกรุมารีวิวค่ะ

ตัวนี้เราซื้อมาจากญี่ปุ่น ด้วยเหตุผล หลักๆ คือ ติดอันดับ Cosme ปี 2015 และ 2016 ได้อันดับ 1 สองปีซ้อนเลย แถมแบรนด์เคลมว่าเป็นรองพื้นเนื้อมูสมาอัดแข็ง ดึงดูดเงินในกระเป๋ามาก เลยซื้อมาทั้งรีฟิล ทั้งตลับ ซึ่งจะขายแยกเป็นปกติของแบรนด์ญี่ปุ่น 




แพคเก็จ + พัฟ 

แข็งแรงดีมาก เคสสีทองวาวๆไม่ก๊องแก๊ง รีฟิลแป้งก็ไม่ต้องใช้กาว ไม่เลอะเทอะดีค่ะ ชอบที่เค้าแถมพัฟมาให้ 2 อัน พัฟดีมากๆ เหมือนพัฟเป็นแอร์พัพที่เนื้อละเอียดกว่าแบรนด์ทั่วๆไป ดีกว่าพวกไฮเอนด์ CHANEL, DIOR อีกค่ะ พัฟจะไม่กินแป้ง แป้งที่ปาดจะติดแค่ด้านนอกของพัฟ ทำให้ซักแล้วแป้งที่ติดพัฟหลุดออกมาหมดเลย ซักแล้วขาวเหมือนใหม่ แถมแห้งไวกว่าพัฟปกติ

เนื้อแป้ง 

มีความนุ่มแบบนุ่มมาก ไม่ใช่แป้งแห้งๆ แข็งๆ เพราะเป็นรองพื้นเนื้อมูสอัดแข็ง เอาพัฟแตะแป้ง จะได้ปริมาณแป้งออกมาเยอะกว่าแป้งผสมรองพื้นทั่วไป เพราะความนุ่มของมัน เราใช้เบอร์ OC 30 ออกโทนเหลืองมากแบบโทนผิวเรา  เรา NC 20-25 BA สาวนิปปอนเลือกสีคล้ำกว่าเราประมาณสเต็ปนึง 





ทาด้วยพัฟ แป้งจะติดพัฟมาเยอะกว่าแป้งผสมรองพื้นทั่วไป เพราะความนุ่มของเนื้อแป้ง แถมพัฟเป็นแอร์พัฟที่ไม่กินแป้งอีก วิธีทาให้สวยคือเอาพัฟแตะเนื้อแป้งเบามือ ต้องเบามือกว่าเวลาเราทาแป้งผสมรองพื้นที่เคยทานะคะ ไม่งั้นหนาเตอะ แล้วทาแบบปาดๆเกลี่ยๆลงบนผิว ถ้าต้องการปกปิดเพิ่มก็ค่อยๆทาแป้งเพิ่มตามระดับความปกปิดที่ต้องการ  ปกติทาแป้งผสมรองพื้นเราจะชอบใช้แปรงทา แต่พัฟของแป้งตัวนี้ดีมากๆ นุ่มๆ ไม่ระคายเคืองผิวเลย ทาแป้งแล้วเนียนมาก

ทาด้วยแปรง เราใช้แปรงตัวนี้ของ Real Teqnique รุ่น Buffing Brush เราชอบมาก เหมาะกับการทาแป้งผสมรองพื้น เพราะรวดเร็ว ให้ลุคธรรมชาติ ปกปิดกลางๆ ไม่มีสกิลการแต่งหน้าอะไร ใช้แปรงนี้ก็ทาแล้วสวยค่ะ จริงๆเพื่อนๆคนไหนมีแปรงลักษณะนี้เอามาใช้ก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นของ RT เท่านั้น





ผลลัพธ์ผลผิว

ทั้งการทาด้วยพัฟและแปรง แป้งผสมรองพื้นตัวนี้ให้ความเนียน, ละเอียด เบลอรูขุมขน ทาแล้วรูขุมขนดูเล็กลง ดีเกินมาตรฐานแป้งญี่ปุ่น  ที่น่าแปลกใจคือเป็นแป้งเนื้อแมต และปกปิดดี สวนเทรนด์งานผิวของสาวญี่ปุ่นในปัจจุบันที่เน้นดิวอี้สุดๆ ไม่ตกร่องรูขุมขน ไม่เป็นคราบ ทาไปตอนแรกเนื้อจะแมตหน่อย ถึงแมตแต่ทาแล้วดูไม่แบน เพราะแป้งกระจายแสงดี เล่นแสงมากตามแบบฉบับญี่ปุ่น จะให้เอฟเฟกต์ผิวดูนวลๆ โกลวๆ กำลังดี คิดว่าแป้งตัวนี้เป็นสายปกปิดมากกว่าจะธรรมชาติ ปกปิดประมาณ Medium Coverage ถ้า Built ไปจนถึงขึ้น Full coverage จะดูหนาเตอะ แล้วก็จะเคกกี้ไป ระหว่างวันเมื่อเหงื่อออกหรือเมื่อแป้งไปผสมกับน้ำมันในผิว หน้าจะโกลวขึ้น ผิวดูดีกว่าทาตอนแรกอีก แต่ไม่ได้ดูหน้ามันแบบฉ่ำขั้นสุดแบบสาวเกาหลี 


ความติดทนและการควบคุมความมัน

คุมมันดีมากๆ ปกติทีโซนจะมันๆต้องซับมันบ้าง แต่อันนี้ไม่ต้องซับมันเลย ตรงทีโซนเฟรชมาก แทบจะเหมือนตอนเพิ่งทา ติดทนดีมาก แต่ถ้าวันไหนต้องออกแดด เหงื่อไหล แป้งก็อาจมีหลุดนิดๆไปบ้างตรงทีโซน แต่หลุดออกไปน้อยมาก ทาไปดูคอนเสิร์ตเหงื่อไหล แต่หน้าไม่มันแบบกระทะทอดไข่ มีเงานิดๆตรงจมูก  แป้งไม่เป็นคราบเลย ขนาดลองฉีดสเปรย์น้ำแร่คราบยังไม่มาเยือนเลย รวมถึงไม่ตกร่องรูขุมขน  สีไม่ดร็อปด้วย คิดว่าเหมาะกับคนผิวผสมและผิวมัน ผิวแห้งอาจต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ดีๆหรือไพรม์เมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นก่อนทาค่ะ ไม่งั้นถ้าที่ผิวแห้ง ทาแป้งเนื้อแมตลงไป จะไปเน้นพวก Fine Line อะไรพวกนี้ได้ และความแห้งของผิวจะทำให้ดูเคกกี้ ดูไม่ธรรมชาติ สำหรับเราผิวผสม ทีโซนมัน แก้มแห้ง ชอบนะคะ เหมาะกับอากาศร้อนๆบ้านเราค่ะ รอดแน่นอน เหมาะกับวันที่ต้องการการปกปิด ต้องการความเนียน คุมมัน และติดทนทาน


สิ่งที่ไม่ชอบ

ไม่ชอบฟีลตอนทาใหม่ๆ มันดูแป้งๆบนผิวไป ทำให้ดูไม่ธรรมชาติ แต่พอเวลาผ่านไป แป้งเซ็ทตัวผสมกับน้ำมันในผิว ดูดีมากๆ และด้วยความที่ปกปิดดี มันก็ดูรู้ค่ะว่าทาแป้ง ดูรู้แต่งหน้า แต่มันก็ให้เอฟเฟกต์ผิวดี ผิวสวย แบบคงทน ที่ไม่ถึงขั้นใส่หลอก เหมือนใส่หน้ากาก


คะแนน 
  • เนื้อเกลี่ยง่าย สบายผิว : 3/5
  • ปกปิด : 5/5
  • ความธรรมชาติ : 2/5
  • ฟินิชลุคบนผิว : 4/5
  • ติดทน : 4.5/5
  • ควบคุมความมัน : 4.5/5
  • ความพอใจ ความชอบส่วนตัว : 5/5

ซื้อต่อรึเปล่า?  : อาจจะซื้อรีฟิลมาใช้ต่อถ้าไม่เจอตัวถูกใจกว่าถือเป็นแป้งสายปกปิด+แมต ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ขนาดปกติจะชอบแป้งแนวบางๆธรรมชาติ ยังรู้สึกชอบแป้งตัวนี้



"ทั้งนี้ทั้งนั้นการรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราคนเดียว 
ซึ่งผลลัพธ์หรือความชอบในการใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม  
ย่อมแตกต่างกันไปตามสภาพผิว และปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ"